การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
Expressway Authority of Thailand
ภาพรวมหน่วยงาน
ก่อตั้ง27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 (50 ปี)
สำนักงานใหญ่อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ กทพ. 111 ถนนริมคลองบางกะปิ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
งบประมาณประจำปี550 ล้านบาท (พ.ศ. 2559)[1]
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน
เว็บไซต์www.exat.co.th
แผนที่
{{{map_alt}}}

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. (อังกฤษ: Expressway Authority of Thailand ย่อว่า EXAT) เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ก่อตั้งขึ้นตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้าง หรือจัดให้มีทางพิเศษด้วยวิธีการใดๆ ตลอดจนบำรุงรักษาทางพิเศษและดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับทางพิเศษ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล[2][3]

ประวัติ

ในช่วงปี พ.ศ. 2512 รัฐบาลของ จอมพลถนอม กิตติขจร ได้มีการเตรียมเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการก่อตั้งหน่วยงานที่ดูแลการก่อสร้างทางพิเศษและรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน[4]ซึ่งทางรัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นศึกษาผลกระทบในการก่อสร้างทางพิเศษแต่ด้วยอุปสรรคหลายอย่างทำให้รัฐบาลไม่สามารถเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่ สภาผู้แทนราษฎร ได้จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติตัวเองของจอมพลถนอมเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514

กระทั่งวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 จอมพลถนอมในฐานะประธาน สภาบริหารคณะปฏิวัติ จึงได้ลงนามในประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 290 เรื่องจัดตั้งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยซึ่งได้ลงประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 แต่ทางการทางพิเศษได้ถือเอาวันที่ 27 พฤศจิกายน เป็นวันก่อตั้งองค์กรโดยในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2516 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติแต่งตั้งนายประสิทธิ์ อุไรรัตน์ เป็นผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยคนแรก

ในปี พ.ศ. 2530 คณะรัฐมนตรีและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ซึ่งมีสาระสำคัญคือให้ยกเลิกบทบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ต่อ สภาผู้แทนราษฎร และได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2530 [5]

ในปี พ.ศ. 2535 มีการจัดตั้ง องค์การรถไฟฟ้ามหานคร เพื่อเป็นหน่วยงานที่ดูแลรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนโดยเฉพาะอันเนื่องมาจากการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเพื่อความคล่องตัวในการจัดการการก่อสร้างและการบริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน

ต่อมาในวันพุธที่ 27 มิถุนายน 2550 ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 32/2550 คณะรัฐมนตรีได้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ.... เข้าสู่การพิจารณาซึ่งที่ประชุมมีมติรับหลักการและได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 15 คน[6] จากนั้นในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 55/2550 เมื่อวันพุธที่ 3 ตุลาคม 2550 ที่ประชุมมีมติในวาระ 3 เห็นชอบสมควรให้ประกาศใช้เป็นกฎหมาย[7] ซึ่งได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2551 และให้มีผลในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาคือในวันที่ 9 มกราคม 2551 โดยสาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้คือให้ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2515 และ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 พ.ศ. 2530 รวมถึงการแก้ไขวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งซึ่งไม่เข้ากับยุคสมัย[8]

สายทางพิเศษ

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปัจจุบันได้เปิดให้บริการทางพิเศษ 8 สายทาง คือ

ศูนย์ควบคุม

  • ศูนย์ควบคุมทางพิเศษเฉลิมมหานคร (CCB1)
  • ศูนย์ควบคุมทางพิเศษศรีรัช (CCB2)
  • ศูนย์ควบคุมทางพิเศษฉลองรัช (CCB3)
  • ศูนย์ควบคุมทางพิเศษบูรพาวิถี (CCB4)
  • ศูนย์ควบคุมทางพิเศษอุดรรัถยา (CCB5)
  • ศูนย์ควบคุมทางพิเศษบางพลี-สุขสวัสดิ์ (CCB6)
  • ศูนย์ควบคุมทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก (CCB7)

ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เปิดให้บริการระบบจัดเก็บค่าผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Toll Collection System: ETCs) โดยเรียกว่า Easy Pass เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553 ในสายทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษวงแหวนรอบนอกด้านใต้ (บางพลี-บางขุนเทียน) และวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ในสายทางพิเศษศรีรัช กทพ. ได้นำ Easy Pass เข้ามาใช้แทนระบบ Tag ของเดิมที่ได้ถูกยกเลิกการใช้งานแล้ว เพื่อขยายปริมาณการรองรับการจราจรบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง โดยสามารถทำได้สูงสุด 1200 คันต่อชั่วโมงต่อช่องทาง

รายชื่อผู้ว่าการ

  1. นายประสิทธิ์ อุไรรัตน์ (27 มีนาคม พ.ศ. 2516-17 กรกฎาคม พ.ศ. 2516)
  2. นายจำลอง ศาลิคุปต์ (21 สิงหาคม พ.ศ. 2516-10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519)
  3. นายทองฉัตร หงส์ลดารมภ์ (1 ธันวาคม พ.ศ. 2519-25 กรกฎาคม พ.ศ. 2522)
  4. นายจรัญ ยุพรัตน์ (9 ตุลาคม พ.ศ. 2522-1 มิถุนายน พ.ศ. 2536)
  5. นายสุขวิช รังสิตพล (16 มิถุนายน พ.ศ. 2536-24 ตุลาคม พ.ศ. 2537)
  6. นายศิวะ เจริญพงษ์ (8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537-30 กันยายน พ.ศ. 2538)
  7. นายเรืองฤทธิ์ พูลสวัสดิ์ (17 ตุลาคม พ.ศ. 2538-19 กันยายน พ.ศ. 2540)
  8. นายสมนึก ชัยเดชสุริยะ (23 กันยายน พ.ศ. 2540-22 ตุลาคม พ.ศ. 2541)
  9. นายปรีชา ศรีทองสุข (25 ตุลาคม พ.ศ. 2541-30 กันยายน พ.ศ. 2544)
  10. นายเผชิญ ไพโรจน์ศักดิ์ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2544-20 มกราคม พ.ศ. 2552)
  11. พันโททวีสิน รักกตัญญู (1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552-22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554)
  12. นายอัยยณัฐ ถินอภัย (8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554-7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558)
  13. นายณรงค์ เขียดเดช (13 มกราคม พ.ศ. 2559-15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561)
  14. นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ (27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561-7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563)
  15. นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข (3 สิงหาคม พ.ศ. 2563-ปัจจุบัน)

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๙๑ ก วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘
  2. ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๙๐ เพื่อกำหนดให้จัดตั้ง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในการสร้างทางพิเศษ (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ), ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม ๘๙, ตอน ๑๘๒ ก ฉบับพิเศษ หน้า ๗๖, ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕.
  3. พระราชบัญญัติ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๐, ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๔ ก, ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑.
  4. "ข้อมูลทั่วไปของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-11-21. สืบค้นเมื่อ 2018-02-24.
  5. พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๙๐ ลงวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ พ.ศ. ๒๕๓๐ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๔ ตอน ๑๖๔ ก พิเศษ หน้า ๓๖ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๐
  6. บันทึกการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 32/2550
  7. บันทึกการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 55/2550
  8. พระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๐
  9. ประจิมรัถยา นามพระราชทานใหม่ ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ

ดูเพิ่ม

0.15463995933533